มาไกลแล้ว... อย่าล้มเลิก ❤ ไดอารี่ของอังริน
เพื่อนๆ เคยทำอะไรแล้วล้มเลิกไปกลางคันบ้างมั๊ยคะ? แล้วสาเหตุของการล้มเลิกในครั้งนั้นของเพื่อนๆ คืออะไร...
นึกย้อนกลับไปสำหรับตัวรินเอง มีหลายอย่างเหมือนกันที่ทำยังไม่ทันสำเร็จ แล้วก็ล้มเลิกไปซะก่อน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เรื่องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก
เมื่อหลายปีก่อน รินเริ่มลดน้ำหนักด้วยการวิ่ง เพราะคิดว่าเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด แต่เพราะคาดหวังผลลัพธ์ที่เร็วเกินไป วิ่งมาตั้งเดือนนึงแล้ว ทำไมน้ำหนักไม่ลดซักที โครงการวิ่งลดน้ำหนักของรินจึงต้องพับไปหลายครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลาแค่ 1-2 เดือน และเมื่อกลับมาเริ่มวิ่งใหม่ ก็มักได้ยินคำพูดจากคนใกล้ตัวหรือเพื่อนฝูงในทำนองที่ว่า "จะวิ่งได้กี่วัน เดี๋ยวมึงก็เลิก" หรือ "เห็นวิ่งมาตั้งนานละ ไม่เห็นมึงจะผอมลงเลย" และ "วิ่งเสร็จเดี๋ยวมึงก็ไปกิน ไม่มีทางผอมหรอก เลิกวิ่งเหอะ" ช่วงนั้นต้องฟังอะไรแบบนี้อยู่บ่อยๆ กำลังใจก็ลดลง และนำไปสู่ความคิดว่า เราคงทำไม่ได้จริงๆ เลิกเหอะ
จนกระทั่งมีใครสักคนพูดขึ้นมาในช่วงเวลานั้นว่า "หน้าเริ่มเล็กลงแล้วนะ" หรือคำถามกึ่งชวนว่า "เห็นวิ่งมาซักพักแล้ว ลองลงวิ่งมินิดูไหม" กำลังใจจึงเริ่มกลับมาอีกครั้ง พร้อมเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจกว่าการลดน้ำหนักนั่นก็คือ "ฉันจะเป็นนักวิ่งมินิมาราธอน"
เมื่อมีเป้าหมาย เราจะเริ่มมองหาวิธีการ และเมื่อทำคนเดียวไม่ไหว เราจึงต้องหาคนที่ซัพพอร์ตเราเอาไว้ด้วย ซัพพอร์ตในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเรื่องเงินทองหรือสิ่งของ แต่เป็นคนที่ซัพพอร์ตความรู้สึก ความตั้งใจของเราได้
รินเริ่มหาตารางซ้อมวิ่ง 10k และคุยกับ "พี่เจี๊ยบ" ซึ่งเป็นคนที่ชวนให้ลองลงวิ่งมินิมาราธอน รินซ้อมวิ่งคนเดียว วิ่งเสร็จก็ส่งผลให้พี่เจี๊ยบดู ซ้อมตามตารางได้บ้าง ไม่ได้บ้าง วันที่วิ่งต่อเนื่องไม่หยุดได้ 2k เหนื่อยแทบขาดใจ ความท้อใจเริ่มเข้ามาทักทาย อีก 8k ฉันจะไปวิ่งยังไงไหว แต่ยังไงก็ต้องวิ่งเข้าเส้นชัยโดยไม่ต้องนั่งรถพยาบาลให้ได้
รินเริ่มหาตารางซ้อมวิ่ง 10k และคุยกับ "พี่เจี๊ยบ" ซึ่งเป็นคนที่ชวนให้ลองลงวิ่งมินิมาราธอน รินซ้อมวิ่งคนเดียว วิ่งเสร็จก็ส่งผลให้พี่เจี๊ยบดู ซ้อมตามตารางได้บ้าง ไม่ได้บ้าง วันที่วิ่งต่อเนื่องไม่หยุดได้ 2k เหนื่อยแทบขาดใจ ความท้อใจเริ่มเข้ามาทักทาย อีก 8k ฉันจะไปวิ่งยังไงไหว แต่ยังไงก็ต้องวิ่งเข้าเส้นชัยโดยไม่ต้องนั่งรถพยาบาลให้ได้
ช่วงซ้อมพี่เจี๊ยบมีคำแนะนำและกำลังใจดีๆ ให้เสมอๆ พี่เจี๊ยบมักพูดให้ดูตัวเองที่วิ่งวันแรก จนถึงวันนี้ว่ามาไกลแค่ไหนแล้ว เก่งมากแล้วนะ และคำที่พี่เจี๊ยบพูดกับรินบ่อยๆ ก็คือ "สู้ๆ พี่เชื่อว่าหนูรินทำได้" แล้วรินก็จบมินิมาราธอนแรกได้ด้วยดี ในเวลา 1.33 ชม. ซึ่งเป็นเวลาที่รินได้คาดการณ์ไว้ คนที่ยินดีและดีใจกับรินมากๆ แน่นอนว่าคือ พี่เจี๊ยบ
เหตุการณ์ที่เล่านี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 นับเป็นสิ่งแรกเลยมั๊งที่รินทำได้สำเร็จ สมบูรณ์ โดยที่ไม่ล้มเลิกกลางทางแบบที่ผ่านๆ มา สถิติ ความเร็วในการวิ่ง ไม่ได้มีความหมายกับรินมากไปกว่า การสัมผัสได้ถึงพลังที่ดีในระหว่างการฝึกซ้อมวิ่ง การได้รับรู้ว่ามีคนหนึ่งคนคอยให้กำลังใจ และเอาใจช่วยให้เราทำสิ่งที่มุ่งหวังได้สำเร็จ ถึงแม้จะถอดใจ ท้อแท้ แต่กำลังใจเหล่านั้นก็ทำให้เราไม่ล้มเลิกไปซะก่อน
อ่านถึงตรงนี้แล้ว... ในช่วงเวลานี้เพื่อนๆ กำลังทำเรื่องอะไรอยู่บ้างคะ หากกำลังมีความคิดที่จะล้มเลิกหาคนที่ซัพพอร์ตให้เจอนะคะ และมุ่งไปที่เป้าหมายนั้น เมื่อใดที่รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ ลองมองย้อนกลับไปที่วันเริ่มต้น จนถึงวันนี้ ว่าเราเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว และหากคนที่ซัพพอร์ตเราก็ยังเดินทางร่วมกับเราอยู่เสมอพร้อมความเชื่อมั่นว่า "เราทำได้ !! " ฉนั้น... อย่าล้มเลิกกลางทาง
เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนนะคะ รวมทั้งตัวเองด้วย
"มาไกลแล้ว... อย่าล้มเลิก"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น